logo

คำถามจาก วิกิยา

Home / FAQ ยา/ เดกซาเมทาโซน (Dexamethasone)

คำถามเกี่ยวกับยา

โดย วันทนีย์ โลหะประกิตกุล

เรื่อง : เดกซาเมทาโซน (Dexamethasone)

ยาเดกซาเมทาโซน (Dexamethasone) คือยาสังเคราะห์กลุ่ม Glucocorticoid ที่เป็นยาสเตียรอยด์ชนิดหนึ่ง นักวิทยาศาสตร์นำมาใช้เป็นยาต้านการอักเสบ/ยาแก้อักเสบ และมีฤทธิ์กดภูมิคุ้มกันต้านทานโรคของร่างกายไม่ให้ทำอันตรายต่อเนื้อเยื่อหรือต่ออวัยวะภายใน ซึ่งด้วยคุณสมบัติดังกล่าว ส่งผลให้ยาเดกซาเมทาโซนถูกนำมาใช้บำบัดรักษาโรคต่างๆ ได้มากมาย เช่น

  • บรรเทาอาการอักเสบต่างๆ ที่เกิดกับร่างกาย
  • รักษาโรคข้อรูมาตอยด์
  • รักษาอาการหอบหืด โรคหืด
  • รักษาและป้องกันภาวะอักเสบของตาอันมีสาเหตุจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือหลังผ่าตัดต้อกระจก
  • บรรเทาอาการบวมของจอตา/จอประสาทตา อันมีสาเหตุจากเส้นเลือดดำใหญ่ที่ไปหล่อเลี้ยงตีบตัน
  • รักษาอาการอักเสบของหู (หูติดเชื้อ) อันมีสาเหตุจากการติดเชื้อแบคทีเรีย
  • รักษาและบรรเทาแผลในปาก ช่องคอ โดยใช้ในรูปแบบของยาพ่น
  • ลดภาวะสมองบวมในผู้ป่วยเนื้องอกสมอง มะเร็งสมอง
  • บรรเทาและลดอาการข้างเคียงของยากลุ่มยาเคมีบำบัดในผู้ป่วยมะเร็ง
  • ใช้เป็นยาทดแทนในผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อยาเพรดนิโซโลน
  • ใช้รักษาอาการป่วยของทารกในครรภ์มารดาที่มีการพัฒนาของปอดผิดปกติ
  • เกิดสิว ผิวหนังบางลง
  • นอนไม่หลับ
  • วิงเวียนศีรษะ ปวดศีรษะ
  • รับประทานอาหารมากขึ้น
  • น้ำหนักเพิ่ม
  • เบื่ออาหาร
  • ซึมเศร้า
  • ความดันโลหิตสูง
  • มีความเสี่ยงของการติดเชื้อมากขึ้น
  • ความดันลูกตาสูง
  • อาเจียนคลื่นไส้
  • จิตใจสับสน
  • ปัสสาวะน้อยลง
  • บวม ใบหน้า ตามนิ้ว มือและขา
  • กรณีที่ใช้ยาเป็นเวลานานๆ อาจเกิดต้อกระจก

*อนึ่ง: หากหยุดยาเดกซาเมทาโซนกะทันหันหลังกินยาต่อเนื่อง อาจมีอาการถอนยา เช่น ความดันโลหิตต่ำ เป็นไข้ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ ขึ้นผื่นคันตามผิวหนัง น้ำหนักลด เยื่อจมูกอักเสบ และเสียชีวิตได้

  • ห้ามใช้ยานี้ กับผู้ป่วยที่ยังไม่ทราบสาเหตุของการติดเชื้อ
  • ห้ามใช้ยานี้ กับผู้ที่มีการติดเชื้อราในอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย เพราะจะทำให้เชื้อรารุนแรงขึ้น
  • ห้ามใช้ยานี้ กับผู้ป่วยที่เชื้อมาลาเรียขึ้นสมอง เพราะอาจทำให้โรครุนแรงขึ้น
  • ห้ามใช้ยานี้ กับผู้ที่อยู่ในช่วงให้วัคซีน เช่น วัคซีนฝีดาษ /วัคซีนไข้ทรพิษ เพราะจะทำให้เชื้อที่ใช้ผลิตวัคซีนรุนแรงขึ้น หรือประสิทธิภาพของวัคซีนด้อยลง
  • การใช้ร่วมกับยาปฏิชีวนะบางกลุ่ม เช่นยา Ciprofloxacin, Ofloxacin, Trovafloxacin สามารถเพิ่มความเสี่ยงเกิดภาวะเอ็นอักเสบโดยเฉพาะกับผู้ป่วยที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป
  • การใช้ยาปฏิชีวนะบางตัว เช่นยา Rifampin ร่วมกับยาเดกซาเมทาโซน จะทำให้ประสิทธิภาพในการรักษาของยาเดกซาเมทาโซนลดลงไป หากมีความจำเป็นต้องใช้ร่วมกัน แพทย์จะปรับขนาดรับประทานของยาทั้งคู่
  • การใช้ร่วมกับยาแก้ปวดบางตัว เช่นยา Ibuprofen อาจทำให้เกิดภาวะเลือดออกในกระเพาะอาหาร ลำไส้ (ภาวะเลือดออกในทางเดินอาหาร) มีอาการปวดท้อง วิงเวียนศีรษะ ปวดหัว อุจจาระมีสีดำเหมือนยางมะตอย (จากมีเลือดออกในทางเดินอาหาร) จึงควรหลีกเลี่ยงหรือให้รับประทานยาแก้ปวดหลังอาหาร
  • การใช้ร่วมกับยาลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือด/ ยาต้านเกล็ดเลือด เช่นยา Aspirin สามารถทำให้ประสิทธิภาพของยาลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือดด้อยลงไป ควรหลีกเลี่ยงการใช้ร่วมกันหรือแพทย์ปรับขนาดของการรับประทานยาทั้งคู่ ยาลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือด